แรงกระแทก จากอาการความอ่อนไหวของตลาดหุ้นทั่วโลก กระเทือนกันไปทั่วทุกภูมิภาค ยากจะหลบหลีกเลี่ยง การหยิบกฏเกณฑ์ใดๆขึ้นมาปัดฝุ่น ให้สมสมัย จึงเป็นเรื่องจำเป็น แม้จะเจ็บปวดก็ตาม
เคยใช่ไหม ที่พบว่าการลงทุนกับหุ้นบางตัวของเรา อาจถูกแขวน ห้ามการซื่อขายเครื่องหมาย ทีแสดงสัญญลักษณ์ ห้ามทำการซื้อ-ขาย หุ้นตัวนั้นๆ เรารู้จักกันดี คือ SP-Suspension หงุดหงิดใจชะมัด แต่หากจะมาพลิกปูมดูเบื้องหลังว่า เหตุใด จึงเกิดอาการนี้ เราจะรู้ท่องแท้ ขึ้น และเมื่อเวลาเดินทางมาถึง จึงอาจต้องกลับมาทบทวนว่าจะ ดำเนินการอย่างไร
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จึงลุกขึ้นมาทบทวน และถามไถ่กับคำถามที่น่าขบคิดว่า จะทำอย่างไรกันดี เพราะอย่าลืมว่า การเป็นบริษัทมหาชน ย่อมมีผู้ถือหุ้นอีกนับร้อย นับพันที่เข้ามาลงทุนกับบริษัทนั้นๆ จะด้วยเหตุใดๆของแต่ละก็ตาม ดังนั้นการจะปรับเกณฑ์ใดๆ จึงอาจต้องมาช่วยกันคิด มาฟัง มาถาม ผลกระทบ เกิดขึ้นอยู่แล้ว จะมาก-น้อย ขึ้นอยู่กับอาการของแต่ละคน
ทบทวนการขึ้น SP มาจากเหตุใดกัน บ้าง เช่น บริษัทนั้นๆเข้าข่ายถูกเพิกถอน ไม่เปิดเผยข้อมูลสำคัญอย่างเพียงพอและทันเวลาต่อการตัดสินใจลงทุน มีเหตุอื่นที่มีผลกระทบร้ายแรงต่อการซื้อขายหลักทรัพย์
ปัจจุบัน มีบริษัทจดทะเบียนที่ถูกห้ามการซื้อขาย จำนวน 27 บริษัท หมายถึงถูกแขวนอยู่อย่างนั้น นักลงทุนที่มีหุ้นเหล่านี้อยู่ ทำอะไรไม่ได้เลย แต่กว่าจะเดินทางมาถึงจุดนี้ได้ แสดงว่า ผู้บริหาร เพิกเฉยกับหลายเรื่อง และเวลาที่ผ่านมา ขาดการดิ้นรน ที่จะดำเนินการใดๆ ที่จะให้หลุดจากการห้ามซื้อขาย
เมื่อเกิดเหตุเช่นนี้ มีหลายคน ถามต่อว่า จะให้ถูกแขวนแบบนี้ไปตลอดกาล นานเพียงใด โอกาสที่จะได้รับ ให้ทำการเยียวยา ฟื้นฟูตัวเอง นานเพียงใดกัน
เราจึงมักจะพบ บางกรณี ที่มีผู้ลงทุนบางกลุ่ม ตระเวนมองหุ้นในกลุ่มนี้ เคาะๆ มองๆ คุ้มค่ากับการเข้ามาปรับโครงสร้างทางธุรกิจ และผู้ถือหุ้นกลุ่มใหม่ เข้ามาฟื้น ปรับโฉม ที่เรียกว่า Back Door Listing ให้เราได้เห็นกันอยู่บ้างประปราย และเลือกตัดสินใจ ว่าจะไปต่อกับพวกเขาไหม
อีกกรณีหนึ่ง ที่ถูกหยิบ ออกมาหารือกัน คือ ไหนๆ จะถูกปลดออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว ขอเปิดให้ซื้อขาย ทิ้งทวนกันรอบสุดท้ายจะได่ไหม เป็น “ทางออกสุดท้าย” นัยว่า เผื่อว่า จะได้ “ออกของ” กัน ก่อนลาจากกันเป็นการถาวร
เรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ ที่ถูกหยิบขึ้นมาถามกัน จากเดิม ถูกขึ้น SP แล้ว เดินออกไป ตามมติของคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ
หุ้นที่เข้าข่าย จะถูกเพิกถอน มีให้เห็นกันอยู่แล้ว ไม่ได้เป็นความลับใดๆ สถิติของเวลา พบว่า ถูกขึ้น SP นานราว 1-7 ปี จึงจะถูกเพิกถอน พอมาถึงปลายทาง เปิดซื้อขายรอบสุดท้าย เห็นเป็นอย่างไรกัน
น่าคิด..น่าคิด… เราต้องยอมรับกันว่า นักลงทุนอาจจะรับรู้ข้อมูลไม่ทันเทียมกัน ราคาที่เคลื่อนไหว ข่าวที่กระจายตัว และ “ความโลภ” ของนักลงทุนที่มีศีลไม่เสมอกัน อาจกลายเป็น “กับดัก” ให้นักลงทุนตกหลุมพลาง กลายเป็น “เหยื่อ” คนาสุดท้ายเมื่อปลายไม้ ของการเปิดซื้อขาย ก่อนโบกมือลากันตลอดกาล ของการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
ทิ้งโค้งสุดท้าย ใครจะเป็นเหยื่อคนสุดท้าย ไม่อยากเป็นเหยื่อ ต้องขยับ ต้องแสดงความคิดเห็น หากเงียบงัน แสดงว่า ยอมรับ แล้วจะไปโทษใครกันเล่า……
………………………………………………………………………………………………….